การแข่งขันประกวดความคิด “Feminist AI Hackathon” ได้จบลงไปแล้วด้วยดี ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ที่โรงแรมแมนดาริน ถนนพระรามสี่ กทม.
ในงานมีทีมเข้าแข่งขันรวมทั้งหมด 8 ทีม มาจากทุกรุ่นอายุ ตั้งแต่นักเรียน ม. 5 จากหลายโรงเรียน มาถึงคนทำงานระดับผู้บริหารระดับกลางของหน่วยงานภาครัฐ รวมไปถึงประชาชนธรรมดาที่สนใจเรื่องบทบาทของปัญญาประดิษฐ์ในการสร้างสรรค์สังคมที่เป็นธรรมและมีคุณภาพ
งานเริ่มต้นขึ้นในช่วงบ่ายของวันอังคารที่ 7 มีนาคม โดย อ. โสรัจจ์ ได้พูดสั้นๆเกี่ยวกับเป้าหมายของการแข่งขัน กับกฎกติกาที่จะใช้ในการตัดสิน จากนั้นทีมต่างๆก็แยกย้ายกันไประดมความคิดของตนเอง และในช่วงบ่ายของวันที่ 8 ก็มานำเสนอแนวคิดของตนเอง
ทีมทั้งแปดที่เข้าแข่งขันประกอบด้วยทีมจากหน่วยงานต่างๆดังต่อไปนี้
ทีมที่หนึ่งมาจากโรงเรียนชลกันยานุกูล จังหวัดชลบุรี ประกอบด้วยนักเรียนชั้น ม. 5 จำนวน 5 คน เสนอไอเดียเรื่องแอพที่ช่วยเหลือผู้หญิง (รวมทั้งผู้ชาย) ที่ทำงานเป็น sex worker โดยแอพชื่อ LUNCH จะแบ่งปันข้อมูล และแจ้งเตือนภัยให้แก่ทั้งผู้ให้บริการและผู้ให้บริการ

ต่อมาก็เป็นทีมที่สอง ซึ่งประกอบด้วยนิสิตระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสนอแอพที่ดัดแปลงเสียงพูด เพื่อแก้ปัญหาด้านอคติทางเพศที่เกิดจากเสียงพูด โดยทีมงานเสนอว่า มีงานวิจัยที่บอกว่าเสียงพูดที่เป็นผู้หญิง เสียงสูงๆหรือเสียงเล็กเสียงน้อย จะได้รับความน่าเชื่อถือน้อยกว่าเสียงที่เป็นแบบผู้ชาย ดังนั้นทีมงานจึงออกแบบแอพที่มุ่งลดอคติของลูกค้า ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อได้ฟังเสียงพูดจากระบบเอไอ โดยระบบจะทำการดัดแปลงเสียง เพื่อให้ผู้ฟังหรือลูกค้าเกิดความพอใจ

ทีมต่อไป คือทีมที่สาม ซึ่งมาจากหลากหลายโรงเรียนมารวมกัน ได้แก่โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม โรงเรียนวินิตศึกษา และโรงเรียนศรัทธาสมุทร โดยแนวคิดที่กลุ่มนี้นำเสนอน่าสนใจมาก คือการตรวจหาคำที่ก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียม หรืออคติทางเพศ รวมไปถึงอคติในด้านต่างๆ ทั้งนี้เพื่อให้บรรยากาศของการใช้ภาษาและการติดต่อสื่อสารออนไลน์ เป็นไปด้วยความเป็นธรรมและช่วยเหลือเกื้อกูลกัน แทนที่จะเต็มไปด้วยคำพูดที่มุ่งทำร้ายกัน


ต่อไปเป็นการนำเสนอผลงานของทีมที่สี่ ซึ่งมาจากโรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม) ผลงานได้แก่แอพชื่อว่า “Law for All” โดยมุ่งที่จะให้การบริการด้านกฎหมายเข้าถึงประชาชนทุกคน รวมทั้งผู้หญิงด้วย โดยแอพจะช่วยให้คำปรึกษาเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ และช่วยทำงานเป็นทนายความเอไอ ในกรณีที่ผู้ใช้มีปัญหาด้านกฎหมายด้านต่างๆด้วย แอพจะทำงานเป็นแชทบอท สามารถพูดคุยกับผู้ใช้และให้คำปรึกษาด้านต่างๆด้านกฎหมายได้


ทีมต่อไปคือทีมที่ห้า ประกอบด้วยชายวัยกลางคนสองท่าน ซึ่งมีความสนใจในงาน Hackathon และได้สมัครเข้ามาร่วมกิจกรรมอย่างแข็งขัน อยู่กับงานตลอดทั้งสองวัน และได้นำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจ โดยเสนอแอพชื่อว่า “อ้วน เอไอ” หรือ “Uan AI” ซึ่งทำงานได้หลายอย่าง เช่นสร้างชุมชนที่ช่วยเหลือกันเกี่ยวกับประเด็นด้านเพศและเพศสภาวะ แจ้งเตือนด้วยโค้ดสี เช่นแดง เหลือง เขียว เพื่อให้ผู้ใช้รู้ว่าเวลาค้นคำหรือค้นหาข้อมูลต่างๆในสื่อออนไลน์ จะพบกับอะไรบ้าง โดยสีที่ปลอดภัยที่สุดคือสีเขียว เป็นต้น

ส่วนทีมที่หก ก็เป็นระดับผู้ใหญ่ทำงานแล้วเช่นกัน โดยเป็นทีมจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA โดยเนื้อหางานของทีมนี้ก็เป็นเรื่องกฎหมายเช่นกัน ทีมนี้นำเสนอ “ไคฟง แพลตฟอร์ม” เพื่อแก้ปัญหาด้านความเหลื่อมล้ำทางเพศในกฎหมายและใช้การวิเคราะห์ภาษา หรือ Natural Language Processing เพื่อวิเคราะห์ความไม่เท่าเทียมที่มีอยู่ในกฎหมายต่างๆ

ส่วนกลุ่มที่เจ็ด ก็มาจาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอีกเช่นกัน แต่กลุ่มนี้นิสิตปริญญาโท กลุ่มนี้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องท้องในวัยรุ่นด้วยการพัฒนาแอพ “เพื่อนแท้คุณแม่วัยใส” ลักษณะของแอพจะเป็นแชทบอท ให้คำปรึกษาแก่วัยรุ่นที่เกิดปัญหาตั้งครรภ์ไม่พร้อม เพื่อให้คำปรึกษา คำแนะนำในด้านต่างๆ นอกจากนี้แอพยังช่วยบอกสถานที่ที่จะสามารถทำแท้งได้ กล่าวโดยรวมก็คือแอพจะช่วยเสนอข้อมูลที่จำเป็นในการตัดสินใจของวัยรุ่นเพื่อให้เข้าถึงกระบวนการทำแท้งที่ปลอดภัย

ส่วนทีมสุดท้ายได้แก่ทีมผสมจากศิษย์เก่าหมาดๆจากคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับนักเรียนระดับ high school แห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา เสนอแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ ชื่อว่า “Eudaimonium” ซึ่งดัดแปลงมาจากศัพท์ภาษากรีก ‘eudaimonia’ ซึ่งแปลว่า “ความสุข” หรือ “ชีวิตที่ดี” ปัญหาที่แอพนี้ต้องการแก้ไขก็คือ การที่ผู้คนเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กันในสื่อสังคมออนไลน์ มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับการนำเสนอตัวตนของตนเอง ซึ่งมักจะประกอบด้วยการมีอคติในด้านต่างๆมาจากการนำเสนอตัวตนนั้น ทีมนี้จึงเสนอแอพโซเชียลมีเดียที่ส่งเสริมการติดต่อกันของบุคคลจริงๆ และไม่มีการเสนออคติที่มาจากการเสนอโพรไฟล์ที่ดัดแปลงทำให้เสียความแท้จริงของตัวตนไป

จะเห็นได้ว่าทั้งแปดทีมได้นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการใช้งานเอไอที่น่าสนใจมากๆทั้งสิ้น ทำให้คณะกรรมการต้องใช้เวลาพอสมควรในการตัดสิน แต่อย่างไรก็ตาม ผลการตัดสินของคณะกรรมการเป็นดังต่อไปนี้
*รางวัลที่หนึ่ง ได้แก่ทีมที่แปด แอพ “Eudaimonium” ได้รับรางวัล 20,000 บาทพร้อมกับเกียรติบัตร
*รางวัลที่สอง ได้แก่ทีมที่สี่ แอพ “Law4All” ได้รับรางวัล 10,000 บาทพร้อมกับเกียรติบัตร
*รางวัลที่สามมีสองรางวัล ได้แก่ทีมที่หก “ไคฟง แพลตฟอร์ม” และทีมที่เจ็ด “เพื่อนแท้คุณแม่วัยใส” ได้รับรางวัลทีมละ 5,000 บาทพร้อมเกียรติบัตร
คณะกรรมการจัดการแข่งขันขอขอบคุณผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกท่าน ที่ได้นำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์มากๆ ขอบอกว่าทุกทีมมีผลงานดีๆพอๆกันเกือบทุกทีม แต่ด้วยข้อจำกัดของรางวัล ทำให้เราจำเป็นต้องให้รางวัลเฉพาะบางทีมเท่านั้น แนวคิดเหล่านี้อยากให้พัฒนาต่อไปเป็นแอพจริงๆได้ในเวลาอันใกล้นี้